กรมทางหลวงที่ 8 เดินหน้าสำรวจออกแบบถนนเลี่ยงเมืองทิศตะวันออกเชื่อมเมืองทิศตะวันตกจังหวัดมหาสารคาม แก้ปัญหาการจราจรในเขตชุมชนและกลุ่มจังหวัด “ร้อยแก่นสารสินธุ์” กำหนดการสำรวจและออกแบบแล้วเสร็จปี’65 หอการค้าจังหวัดประเมินงบฯสร้างกว่า 2,000 ล้านบาท คาดเกิดทำเลการค้าตลอดสองฝั่งถนนในอนาคต
นายชัยธวัช พรหมวิชัย ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 8 (มหาสารคาม) กล่าวว่า กรมทางหลวงได้จัดทำแผนพัฒนาทางหลวงจังหวัดมหาสารคาม โดยกำหนดตามทิศทางของการพัฒนาระบบคมนาคมและขนส่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ ซึ่งดำเนินการจะครอบคลุมถึงโครงการใหม่ที่เป็นงบฯลงทุนก่อสร้างและบูรณะทางหลวงทั่วประเทศ อาทิ งานก่อสร้างเพิ่มมาตรฐานทางหลวงให้เป็น 4 ช่องจราจรหรือมากกว่านั้น งานก่อสร้างทางแยกต่างระดับและสะพานลอย เป็นต้น
สำหรับจังหวัดมหาสารคามมีทางหลวงหมายเลข 291 เป็นถนนเลี่ยงเมืองด้านทิศตะวันตกของอำเภอเมืองมหาสารคามเป็นถนนสำคัญ ในลักษณะเป็นวงแหวนครึ่งวง และเพื่อให้โครงข่ายถนนดังกล่าวมีความสมบูรณ์
เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ปัญหาจราจรในเขตชุมชน จึงจำเป็นต้องดำเนินการออกแบบถนนวงแหวนเลี่ยงเมืองด้านตะวันออกด้วย เพราะจะช่วยระบายการจราจรไปสู่พื้นที่เขตจังหวัดข้างเคียงในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้
โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัด “ร้อยแก่นสารสินธุ์”ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งจะช่วยให้การคมนาคมขนส่งสินค้ามีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น
ดังนั้น กรมทางหลวงจึงมีแผนจะจัดตั้งโครงการสำรวจและออกแบบถนนเลี่ยงเมืองทิศตะวันออกขึ้น โดยจะมีการสำรวจและวิเคราะห์ทางวิศวกรรมอย่างละเอียด มีการรับฟังความคิดเห็นเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่
เพื่อนำข้อคิดเห็นมาประกอบการพิจารณาออกแบบต่อไป สำหรับขั้นตอนโครงการสำรวจและออกแบบจะใช้เวลาศึกษา 1 ปี แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2565
ด้านนายณรงค์ เหล่าสุวรรณ ประธานหอการค้าจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในการประชุม กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 2/2563 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบสำหรับโครงการก่อสร้างถนนบายพาสเส้นนี้
โดยเริ่มที่ทางแยกบ้านหม้อ ถนนนครสวรรค์ ทางไป จ.ร้อยเอ็ด ตัดอ้อมไปเชื่อมถนนบริเวณสี่แยกบ้านดินดำถนนถีนานนท์ หรืออาจจะเลื่อนไปเชื่อมที่ กม.8 ทางไป จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจะกลายเป็นถนนรูปวงแหวนโดยสมบูรณ์
“ยังไงก็ตามต้องรอผลการสำรวจออกแบบก่อน คาดว่าถนนเส้นนี้จะช่วยลดการคมนาคมที่แออัดและลดอุบัติเหตุลงได้ เนื่องจากถนนถีนานนท์มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะเป็นเส้นทางที่นักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามเดินทางเข้าตัวเมืองในช่วงการจราจรคับคั่ง
ฉะนั้นการเชื่อมถนนจะช่วยลดการจราจรที่แออัดได้และเป็นประโยชน์ต่อการคมนาคมในกลุ่มจังหวัดข้างเคียง หรือกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ รวมทั้งการค้าการลงทุนและการขนส่งสินค้าก็ไม่จำเป็นต้องผ่านเข้าตัวเมืองด้วย”
นายณรงค์กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีเมื่อมีงบประมาณลงมาก็สามารถเดินหน้าก่อสร้างได้ทันที ประเมินว่าน่าจะใช้งบฯกว่า 2,000 ล้านบาทเนื่องจากต้องใช้ค่าเวนคืนที่ดินและราคาที่ดินติดถนนใหญ่ก็สูงถึงไร่ละกว่า 10 ล้านบาท
นี่คือราคาที่ดินปี 2563 และเมื่อมีการประเมินราคาที่ดินใหม่ก็จะสูงขึ้นไปอีกในปีต่อไป ผลดีที่ตามมาคือที่ดินสองฝั่งซึ่งถนนจะตัดผ่านจะมีราคาสูงขึ้น จากเดิมเป็นเพียงที่ดินตาบอดก็เกิดการพัฒนา เกิดการค้าตลอดสองฟากฝั่งถนน
และคาดว่านักลงทุนน่าจะสนใจเพราะราคายังไม่สูงเท่ากับถนนบายพาสช่วงตะวันตก ผังเมืองพื้นที่สีเขียวขยับขยายได้ยาก แต่มั่นใจว่าอนาคตถนนบายพาสเส้นตะวันออกจะเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นแน่นอน
ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการดังกล่าวมี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการประชุมปฐมนิเทศโครงการ
มีผู้แทนกรมทางหลวงหน่วยงานเจ้าของโครงการ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้แทนจากสถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำระดับตำบลและหมู่บ้าน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม รวมถึงประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
และในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ต่างฝ่ายร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการแล้ว รวมถึงรูปแบบทางเลือกโครงการซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานโครงการต่อไป
ข้อมูลข่าวจาก ประชาชติธุรกิจ