“ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร” หน.ศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำ ศิริราช ระบุผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า สำหรับคนที่ตามข่าวสาร COVID นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก Delta variant หรือ สายพันธือินเดีย การระบาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน UK พุ่งสู่ระดับ 9,000-10,000 รายมาอย่างน้อย 5 วันติดต่อกัน จนรัฐบาลต้องเลื่อนการเปิดเมืองขั้นสุดท้ายออกไปอย่างน้อย 4 สัปดาห์ พร้อมกับเร่งปูพรมวัคซีนให้เร็วขึ้นทั้งเข็มแรกและเข็มสอง
บางคนได้เห็นข้อมูลข้างต้นแล้วก็อดเปรียบเทียบไม่ได้ เพราะจำนวนประชากรของไทยใกล้เคียงกับ UK มาก หลายคนอาจดีใจว่าบ้านเรายังติดเชื้อไม่หนักหน่วงเท่าเขาเพราะยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่แม้จะเพิ่มขึ้นแต่อยู่ระดับ 3,000 รายต่อวันเท่านั้น
โดยศ.นพ.มานพ ได้ยกตัวอย่างข้อมูล 2 ชุด ที่สื่อให้เห็นถึงความน่าเป็นห่วงของสถานการณ์ประเทศไทย โดยระบุว่า
แม้ยอดผู้ติดเชื้อใน UK สูงกว่าก็จริง แต่ด้วยปริมาณการตรวจหาผู้ติดเชื้อต่อวันของเขาสูงมากกว่า 1 ล้าน tests ทำให้อัตราการตรวจพบเชื้อ (positive rate) ไม่สูงนักคือราว ๆ 0.9-1%
แต่เมื่อหันมามองที่ประเทศไทย จะพบว่า positive rate ของการระบาดรอบนี้พุ่งขึ้นพร้อมการระบาดคือตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน และดูเหมือนจะทรงตัวอยู่ในระดับ 3-4% กว่า 1 เดือน จนปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่า positive rate เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนล่าสุดในเดือนมิถุนายนยืนระยะอยู่เหนือ 7% แทบทุกวัน ข้อมูลวันสุดท้ายคือ 20 มิถุนายนมี positive rate ราว 7.4%
เมื่อแยกพื้นที่ตามเขตสุขภาพจะเห็นชัดว่า เขต กทม (13) มี positive rate สูงสุดคือ 8.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของเราขยับขึ้นเหนือ 3,000 รายต่อวันมาหลายวันติดต่อกัน
ในขณะที่เรามีมาตรการสวนทางกับ UK คือเริ่มผ่อนคลายวันนี้เป็นวันแรก และการฉีดวัคซีนของเรายังน้อยมาก แถม Delta variant ก็น่าจะกำลังขยายตัวในพื้นที่อยู่ทุกวัน
“คงต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ว่าจะเป็นอย่างไร โดยยังไม่ต้องมองไกลถึง 120 วันข้างหน้าครับ”
ข้อมูลข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ