เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 สิงหาคม พ.ต.อ.วัชรเกียรติ สิริวิมลฤทธิ์ ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร แจ้งต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้ากรณีการทุจริตของเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร จำนวนกว่า 12 ล้านบาท เบื้องต้นหน่วยงานที่เสียหายได้ดำเนินการแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น
พ.ต.อ.วัชรเกียรติกล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ไพศาล วรรณชัย สารวัตรสอบสวน เป็นเจ้าของคดี เพื่อทำการติดตามรวบรวมพยานหลักฐานการทุจริตดังกล่าว พร้อมกับตั้งข้อหาความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดเบียดบังเอาทรัพย์นั้นไปเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตหรือทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” และได้ทำการอายัดบัญชีธนาคาร ของนางวิสาข์ อ่ำพุธ นักวิชาการเงินและบัญชีสำนักงานสาธารณสุข ตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ ประกอบด้วยบัญชีธนาคารกรุงไทย 2 บัญชี และธนาคารไทยพาณิชย์ 1 บัญชี แต่พบว่าธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขบัญชีที่แจ้งมาไม่ได้เป็นชื่อของนางวิสาข์แต่อย่างใด คงต้องดำเนินการตรวจสอบกันต่อไป
พ.ต.อ.วัชรเกียรติกล่าวว่า จากการตรวจสอบในบัญชีธนาคาร พบเส้นทางการโอนเงินเข้าบัญชีของนางวิสาข์ อ่ำพุธ ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมาจนถึงเดือนกรกฎาคม ในแต่ละเดือนมียอดเงินเข้าบัญชีตั้งแต่หลักพันจนถึง 1 ล้านกว่าบาทอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับการถอนออกเป็นระยะๆ เช่นกัน ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบยอดสุดท้ายในบัญชีหลักคือธนาคารกรุงไทย ของนางวิสาข์ พบว่าเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 มีเงินเหลือเพียง 79.31 บาท
พ.ต.อ.วัชรเกียรติกล่าวอีกว่า การดำเนินคดีนั้นเบื้องต้นยังไม่สามารถเรียกตัวผู้กระทำผิดมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ เพราะเป็นการทุจริตของหน่วยงานภาครัฐที่เจ้าพนักงานจะต้องรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานส่งให้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเพื่อดำเนินคดี คงต้องใช้ระยะเวลาและขั้นตอนพอสมควร แต่เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้ หากหลักฐานครบถ้วน เจ้าพนักงานก็จะได้นำรวบรวมส่งให้กับทาง ป.ป.ช.เป็นผู้พิจารณาตามข้อกฎหมาย ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับ ปปง.ในเรื่องของการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ได้ถูกยักย้ายถ่ายเทไปในบัญชี หรือบุคคลอื่นก็ได้ สำหรับนางวิสาข์ที่เก็บตัวเงียบอยู่บ้านนั้น หากมีการหลบหนีก็จะได้ออกหมายจับทันที
ที่มาข่าว มติชนออนไลน์