กรมควบคุมโรค ตั้งเป้าฉีดวัคซีนโควิดวันละ 1 ล้านโดส เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ หวังฉีดเข็มแรกให้ได้ 50% ของประชากรในสิ้นต.ค. ใช้สูตรไขว้ซิโนแวค-แอสตร้าฯ
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ว่า ภาพรวมขณะนี้ดีขึ้น ประชาชนใช้ชีวิตวิถีใหม่ร่วมกับโรคโควิด 19 ได้ตามมาตรการป้องกันตนขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาล เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาระยะห่าง งดไปในสถานที่แออัด เป็นต้น
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 สะสมรวม 43,342,103 โดส ครบ 2 เข็ม จำนวน 14,285,995 โดส และฉีดเข็มที่ 1 ไปแล้ว 28,436,015 โดส โดยเร่งรัดให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้ได้ ร้อยละ 50 ภายในสิ้น ต.ค.นี้ ตามเป้าของ สธ. โดยจะระดมฉีดให้ได้วันละ 1 ล้านโดส จากทุกเข็ม ตั้งแต่วันมหิดลซึ่งตรงกับวันที่ 24 ก.ย.นี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย ขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดไปรับบริการที่สถานบริการใกล้บ้าน
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ขณะนี้วัคซีนที่ใช้ในไทยมี 4 ชนิด คือ ซิโนแวค, ซิโนฟาร์ม, แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ผ่านการรับรองทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากองค์การอนามัยโลก และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยวัคซีนหลักที่ใช้ คือ ซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ เสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ดี ใช้เวลาสั้นกว่าวัคซีนสูตรปกติ
ส่วนวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ในผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มตั้งแต่ มี.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากภูมิคุ้มกันเริ่มลดลงหลังฉีด 3-6 เดือน จะได้รับการแจ้งข้อความ SMS ผ่านทางแอพพลิเคชันหมอพร้อม หรือลงทะเบียนที่สถานพยาบาลเดิม และเข้ารับบริการที่จุดฉีดวัคซีนกลางในแต่ละพื้นที่กำหนด เช่น กทม.คือสถานีกลางบางซื่อ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ส่วนกลุ่มนักเรียน 12-17 ปี จะเริ่มฉีดไฟเซอร์เข็มที่ 1 ในช่วงต้น ต.ค.นี้ จะคำนึงถึงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และเป็นไปตามเจตจำนงของผู้ปกครอง ซึ่ง สธ.จะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) บริหารจัดการระบบการฉีดให้รัดกุมและมีความปลอดภัยสูงสุด
ข่าวจาก ข่าวสด