เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 พล.ต.อ.วัชพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างรับฟังความคิดเห็นครบรอบ 3 ปี พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 สำนักงาน ป.ป.ช.จัดกิจกรรมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบสื่อมวลชนระดับบรรณาธิการ ผ่านระบบ Zoom กรณีคณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสาร สาขาสังคมฯ วินิจฉัยว่าบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกรณีดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2/1 เมื่อปี 2562 ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะนั้น ว่า
เบื้องต้นมีการปรึกษากับคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ช. รวมถึงที่ปรึกษาทางกฎหมายต่าง ๆ และศึกษาตามรัฐธรรมนูญแล้ว เห็นว่า มีการระบุถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ ไม่ใช่จะเปิดเผยได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ความสำคัญมาก อภิปรายเรื่องนี้กันเยอะ โดยการวินิจฉัย พ.ร.บ.ป.ป.ช. กับการวินิจฉัยของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯ อาจไม่ตรงกัน แต่ของ ป.ป.ช. การบอกให้ยื่นเป็นหลักฐานเท่านั้น
“แค่เราจะไปตรวจ ยังไปตรวจไม่ได้เลย ได้แค่เก็บไว้ แต่ถ้ามีการอ้างถึงเมื่อไหร่ ถึงจะเข้าไปตรวจสอบได้ เรามีหน้าที่แค่เก็บ และไม่ได้มีแค่ 2 ท่านนี้ ยังมีอีกหลายคนยื่นในลักษณะเป็นหลักฐานเช่นกัน ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเราจะถูกดำเนินคดีด้วยเหมือนกัน ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติว่า ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะไปเปิดเผยกรณียื่นเป็นหลักฐาน และจะชี้แจงไปยังคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯว่า การตีความข้อกฎหมายของท่านกับเราไม่เหมือนกัน เราดำเนินการตามบทบัญญัติต่างกัน มีความรับผิดชอบทางอาญาเข้ามาเกี่ยวข้อง” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
ที่มาข่าว ประชาชาติธุรกิจ