นอกจากนี้ ปัจจุบัน “ฝีดาษลิง” ยังแพร่กระจายไปสู่กลุ่มเยาวชน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
โดยข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า เริ่มพบเยาวชนติดเชื้อฝีดาษลิงเพิ่มมากถึง 16 รายในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)” โดยมีข้อความระบุฝีดาษลิง ว่า
ด้วยจำนวนเคสฝีดาษลิงของไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จำนวนเคสต่อประชากรล้านคนของไทยเราตอนนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทวีปเอเชียราว 10 เท่า และสูงกว่าทวีปแอฟริการาว 3 เท่า
แม้จะยังน้อยกว่าทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป แต่หากไม่ควบคุมป้องกันให้เข้มข้นกว่าเดิม ไทยอาจเป็น hot spot ของฝีดาษลิงในระยะยาว เหมือนที่เราเคยประสบกับเรื่องเอชไอวี (HIV) เพราะไม่ได้ติดแค่ในกลุ่มชายรักชาย แต่รวมไปถึงต่างเพศ และเยาวชนวัยรุ่นด้วย อุตสาหกรรมบริการ และการท่องเที่ยวจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการป้องกันในกิจการของตนให้ดี
ที่มาข่าว : ฐานเศรษฐกิจ
ในขณะที่ประชาชนก็ควรระแวดระวัง คอยสังเกตสังกาคนที่เราพบปะคลุกคลีใกล้ชิด รักษาความสะอาดเวลาไปใช้สถานที่สาธารณะ ที่ท่องเที่ยว พักแรม สุขา ฯลฯ