เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า วันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 28 ราย หายกลับบ้าน 1,689 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงอายุ 85 ปี อาชีพแม่บ้าน มีโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ รักษาที่จ.ชุมพร มีอาหารไข้ ไอ เหนื่อยหอบ ใส่เครื่องช่วยหายใจ พบปอดอักเสบรุนแรง พบเชื้อโควิด-19
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ได้แก่ ผู้ป่วยมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 16 ราย กลุ่มผู้ป่วยใหม่ อาชีพเสี่ยง สัมผัสชาวต่างชาติ 4 คน เดินทางไปห้างสรรสินค้า 1 ราย และรอการสอบสวน 7 ราย
ขณะที่จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยรายงานในช่วง 14 วันที่ผ่านมามี 27 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วย 9 จังหวัด สำหรับกรุงเทพยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนจังหวัดอื่นๆลดลง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ทั่วโลก สหรัฐอเมริกายังมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นอันดับ1 ส่วน ญี่ปุ่นเพิ่มวันเดียว 605 ราย สิงคโปร์ 728 ราย เราได้เห็นภาพการติดเชื้อง่ายมาก ทั้งนี้มีคำถามว่าไทยผ่อนคลายได้บ้างหรือไม่ เพราะมีการพูดว่าไม่กลัวติดเชื้อกลัวอดตายมากกว่า ซึ่ง องค์การอนามัยโลกระบุว่าหากจะผ่อนคลายต้องทำให้ได้ 6 ข้อ คือ
1.สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคภายในประเทศ ในส่วนของเราอาจจะต้องเหลือ 0 ราย หรือคงที่
2.ระบบสุขภาพต้องตรวจหาเชื้อ กักตัว รักษา สอบสวนโรคให้ได้ ตรงนี้อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข และสปสช. รับผิดชอบจากการหาสารคัดหลั่งในโพรงจมูก รัฐ เอกชน ขอโค้ดและยืนยันการทำระบบคอมพิวเตอร์นี้ได้
3.ความเสี่ยงในสถานที่เสี่ยงภัย เช่น บ้านพักคนชรา เรายังไม่มีรายงานในส่วนนี้
4.โรงเรียน ภาครัฐ สถานที่สาธารณะ ต้องมีการควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้เราทำกันอยู่
5.จัดการความเสี่ยงผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ เราแง้มน่านฟ้าไว้ยังไม่ปิด พยายามควบคุมได้อยู่ และ
6.คนในชุมชนต้องมีความรู้ มีส่วนร่วมภายในสังคม แต่ของเรายังมีกลุ่มก๊งเหล้า ซึ่งข้อที่6 สำคัญมากหากทุกคนให้ความร่วมมือเราถึงจะปลดล็อกดาวน์ได้
ขณะนี้มีการประชุมเพื่อพิจารณาปลดล็อกผ่อนคลาย มีข้อเสนอเช่น ร้านตัดผม ผู้ประกอบการต้องจัดสถานที่นั่งเว้นระยะห่าง หรือใช้บัตรคิว ให้เวลาไม่เกิน 2 ชม. ส่วนผู้ได้รับบริการต้อง ใส่หน้ากากผ้าทุกคน หรือการเปิดห้างสรรพสินค้า อาจจะต้องจัดคิวการเข้าห้าง ทยอยเปิดร้านที่สำคัญ ไม่มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย นาทีทอง สิ่งต่างๆเหล่านี้ศบค.ต้องพิจารณากันต่อไป
ข้อมูลข่าวจาก เดลินิวส์