นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการประสานงานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
ทำหน้าที่ติดตามวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย ตลอดจนอำนวยการ ประสานงานกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรภาคเอกชนและจิตอาสา โดยเฉพาะประสานการทำงานร่วมกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ให้ความช่วยเหลือ รับเรื่องราวร้องทุกข์และความต้องการจากประชาชน พร้อมประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการช่วยเหลือต่อสาธารณชน
ภารกิจของศูนย์โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะประชุมศูนย์ฯ เพื่อติดตามข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือประชาชน เพื่อบูรณาการข้อมูล เพื่อให้รับทราบข้อมูล อาทิ ยอดเงินบริจาค ภารกิจของฝ่ายรัฐบาลทั้งนายกรัฐมนตรีและ ครม.ที่ลงพื้นที่ไปปฎิบัติภารกิจอะไรบ้าง ภารกิจของ ปภ. ความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการ กระทรวงต่างๆ และภาคเอกชน รวมถึงรวบรวมความต้องการต่างๆ ของประชาชนด้วย
– ศูนย์อำนวยการประสานงานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตั้งอยู่ที่ห้องประชุม 107 ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ภายในทำเนียบรัฐบาล
– พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ติดต่อขอรับความช่วยเหลือ ร้องเรียน หรือร้องทุกข์ได้ที่สายด่วนรัฐบาล โทร. 1111
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ระบุถึงการติดตามสถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัด หากพื้นที่ใดยังไม่คลี่คลายและมีน้ำท่วมขัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หากพื้นที่ใดน้ำลดก็เข้าสู่ขั้นตอนการฟื้นฟู โดยให้ท้องถิ่นเริ่มสำรวจความเสียหาย 2 ส่วนหลัก คือ เรื่องที่อยู่อาศัยและเรื่องการประกอบอาชีพ ส่วนเรื่องระบบสาธารณูปโภคต่างๆ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะสำรวจและเร่งบูรณะแก้ไขต่อไป
การดำเนินการยังน้อมนำแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้ คือ การกำหนดโครงการพื้นที่ที่ที่ควรดำเนินการก่อน เพื่อระดมกำลังลงไปช่วยกันดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วและเร่งรัดสำรวจความเสียหายเพื่อชดเชยให้เร็วที่สุด
สำหรับการชดเชยความเสียหายนั้น เมื่อสำรวจแล้วจะใช้รูปแบบประชาคมเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในการจ่ายเงินชดเชยที่เหมาะสมไม่มากหรือน้อยน้อยเกินไป
ครม. อนุมัติงบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน ประจำปี 2562 กว่า 7 พันล้านบาท เยียวยาผู้ประสบอุทุกภัย แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1. ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ครอบครัวละ 5,000 บาท
2. แบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสรร ตาม 3 หลักเกณฑ์ คือ
– กรณีที่น้ำท่วมถึงบ้านพักอาศัยโดยฉับพลันและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
– กรณีบ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
– กรณีบ้านพักอาศัยได้รับความเสียหายจากอุทกภัยวาตภัยน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม