พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากนโยบายของตำรวจภูธรภาค 4 นโยบายตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และยุทธการฟ้าแดดสงยางกวาดล้างยาเสพติด ซึ่งบูรณาการทำงานร่วมกันทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสย นำโดย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สภ.กมลาไสย จับกุมหญิง 2 คน พร้อมของกลางยาบ้า 33,868 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงขยายผลทราบว่าได้รับยาบ้ามาจากนายสิน ผู้ค้ายาชาวลาว จึงได้ซ้อนแผน โดยติดต่อสั่งซื้อยาบ้าจากนายสินอีกครั้ง ซึ่งนายสินตกลงจะให้นักบิน หรือคนรับจ้างขนยาบ้านำยาบ้ามาส่งที่บริเวณตลาดโสกหินขาว
เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง กระจายกำลังดักซุ่มตามจุดต่างๆ กระทั่งถึงเวลานัดหมายมีรถเก๋งสีขาวขับผ่านไปมาหลายรอบ และได้ติดต่อกลับมาว่าจะให้รถเก๋งสีขาวจอดที่บริเวณจุดนัดพบ จากนั้นก็จะมีรถกระบะสีขาวอีก 1 คันนำยาบ้ามาลำเลียงใส่รถเก๋ง ซึ่งเมื่อรถกระบะสีขาวขับมาถึงได้จอดรถเทียบข้างรถเก๋ง จากนั้นมีชาย 2 คนออกมาจากรถกระบะกำลังยกถุงสีดำมายังรถเก๋ง เจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มอยู่จึงแสดงตัวและได้ควบคุมตัวชาย 2 คนที่กำลังขนย้ายยาบ้า และชายอีก 1 คนไว้ได้บนรถกระบะ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นยาบ้า 402,000 เม็ด
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่ายาบ้าที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจค้นพบนั้นพวกตนได้ร่วมกันรับจ้างขนส่งให้กับลูกค้า มีนายสินเป็นผู้ว่าจ้างในราคา 120,000 บาท โดยนายณัฐพงษ์ทำหน้าที่ขับรถดูต้นทางได้ค่าจ้าง 30,000 บาท นายลำพูนทำหน้าที่ขนยาบ้า ได้ค่าจ้าง 50,000 บาท และนายธนาวุฒิ ทำหน้าที่นั่งมากับรถขนยาบ้า และคอยขนยาบ้า ได้ค่าจ้าง 40,000 บาท
เมื่อส่งยาบ้าถึงมือลูกค้าแล้วนายสินจะโอนเงินเข้าบัญชี โดยทำลักษณะนี้มาแล้ว 3-4 ครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย และทำการตรวจยึดยาบ้าทั้งหมด และได้แถลงข่าวถึงรายละเอียดในวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ที่ ตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น
ข้อมูลข่าวจาก