สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. แข่งหวยใต้ดิน หน่วยละ 20 วงเงิน 5,000 ล้านบาท หวังให้รายย่อยไว้เก็บออม รางวัลใหญ่สุด 1 ล้านบาท เริ่มขาย 5 มิ.ย. ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขา
นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ธ.ก.ส.เห็นชอบให้ธนาคารออกสลากออมทรัพย์ชุดเกษตรยั่งยืน ราคาหน่วยละ 20 บาท วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท สำหรับจำหน่ายให้แก่เกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อย ซื้อไว้เก็บออมและลุ้นรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท โดยจะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.2562 ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงการเปิดจองแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส.
“สลากออมทรัพย์ครั้งนี้ นับเป็นสลากฯ ที่ ธ.ก.ส.ทำออกมาราคาถูกสุดนับตั้งแต่เคยมีมา เพราะต้องการให้เข้าไปสู้กับหวยใต้ดิน เนื่องจากผลศึกษาพฤติกรรมการออมและการซื้อหวยของคนไทยพบว่า ส่วนใหญ่นิยมซื้อครั้งละ 10-20 บาทเยอะสุด จึงได้นำผลมาวิเคราะห์และจัดทำออกมาเป็นทางเลือกให้เปลี่ยนเงินซื้อหวยมาเป็นซื้อสลากฯ ซึ่งสามารถเก็บออมได้ด้วย เพราะถ้ายังคงขายสลากฯ แบบเดิมหน่วยละ 100 บาท และ 500 บาท เกษตรกรรายย่อยก็ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะซื้อ” นายสมเกียรติ กล่าวพร้อมกับเล่าต่อว่า
สลากออมทรัพย์ชุดเกษตรยั่งยืน จะเป็นสลากแบบตราสารไร้ใบ หมายเลขหน้าสลาก 4 หลัก ออกหมายเลขแบบเรียงลำดับอัตโนมัติ O000-9999 ราคาหน่วยละ 20 บาท มีอายุสลาก 3 ปี เมื่อครบกำหนดได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.10 บาท โดยมีการออกรางวัลเดือนละ 1 งวด รวม 3 ปี 36 งวด ซึ่งตรวจรางวัลกับเลขท้าย 4 ตัว ของผลรางวัลสลากทวีสิน ทุกวันที่ 16 ของเดือน หากไถ่ถอนก่อนกำหนดมีค่าธรรมเนียมหน่วยละ 20 บาท และไม่สามารถนำไปค้ำประกันเงินกู้ได้
สำหรับเงินรางวัล เลข 4 หลัก เท่ากับ 100% ของราคาสลาก และในงวดแรกหลังการฝาก หากถูกรางวัลได้รับโบนัส 5 พันบาทต่อหน่วยเพิ่มอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการออกรางวัลพิเศษ 1 ล้านบาท อีกปีละ 2 ครั้ง ช่วงเดือน พ.ค.ในวันพืชมงคล และเดือน พ.ย. ซึ่งตรงกับวันสถาปนาธนาคาร โดยผู้ถูกรางวัลพิเศษนี้จะต้องถูกทั้งเลข 4 ตัว และเลขหมวดของสลากฯ
“วัตถุประสงค์ของธ.ก.ส. เพื่อต้องผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อการออมและการลงทุนสำหรับเกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อย โดยนำเงินมาบริหารจัดการเงินนอกระบบสู่การออมในระบบ สร้างภูมิคุ้มกันในการลงทุนให้เกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อย พร้อมเป็นทุนการดำเนินงานของธนาคาร” นายสมเกียรติ กล่าว
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ทิศทางดำเนินงานธนาคารปีบัญชี 2562 ซึ่งจะเริ่มเดือน เม.ย. 2562 ตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโต 9.5 หมื่นล้านบาท โดยเน้นลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ลูกค้าชุมชน และสหกรณ์ ส่วนกลุ่มเกษตรจะเน้นปล่อยกู้เพื่อปรับเปลี่ยนการผลิต โดยใช้ดอกเบี้ยผ่อนปรน เพื่อจูงใจให้เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนอาชีพระหว่างมีการพักชำระหนี้ ขณะเดียวกันมีแผนระดมเงินฝาก และออกสลากออมทรัพย์เข้ามาเพิ่มด้วย โดยปี 2562 จะมีเงินฝากเข้ามาเพิ่มประมาณ 6 หมื่นล้านบาท