เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย นักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย จำนวน 8 คนเป็นชายจำนวน 5 คนและหญิง 3 คนอายุตั้งแต่ 16-22 ปีพากันไปร้องทุกข์ขอให้ทางจังหวัดช่วยเหลือ โดยระบุว่าได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อนตามโครงการศึกษาฝึกงานที่ทางวิทยาลัยร่วมกับองค์กรนิติบุคคลในประเทศเกาหลี แต่เมื่อไปฝึกงานได้เพียงไม่กี่วันก็ประสบปัญหาหนักทั้งเรื่องการใช้ภาษา การใช้แรงงานที่หนักเกินกว่าการไปศึกษาดูงาน นักศึกษาหญิงถูกลวนลาม ได้ทำงานไม่ตรงกับสายงาน รวมทั้งได้รับทราบด้วยวาจาว่ามีผู้รับเงินจากการไปทำงานจึงได้พากันหนีออกจากการฝึกงานไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูตประเทศไทยประจำเกาหลีใต้ให้ช่วยส่งตัวกลับประเทศไทยดังกล่าว
โดยกลุ่มนักศึกษาชายระบุว่าพวกตนได้รับคำแนะนำจากทางวิทยาลัยให้ไปศึกษาดูงานที่เกาหลีใต้จึงเห็นเป็นโอกาสที่จะได้ประสบการณ์ทางการศึกษาจึงได้สมัครเดินทางไป ภายใต้เงื่อนไขว่าจะไม่ได้รับเงินค่าจ้างขณะฝึกงานจึงได้เดินทางไปแล้วถูกส่งตัวแยกไปทำงานทางการเกษตรจำนวน 3 ฟาร์ม โดยบางคนเรียนวิชาช่างแต่กลับได้ไปเลี้ยงวัวหรือไม่ตรงสายงาน จากนั้นเจ้าของฟาร์มชาวเกาหลีได้ใช้แรงงานพวกตนเหมือนไม่ใช่นักศึกษาแต่เป็นแรงงานทาส เริ่มทำงานตั้งแต่เวลา 07.00-19.30 น.เป็นอย่างต่ำ ให้รับประทานอาหารตอน 14.00 น.การทำงานก็มีทั้งทำงานบนที่สูงกว่า 8 เมตร แบกโลหะ สร้างฟาร์ม เลี้ยงสัตว์ บางครั้งหลังจากทำงานในฟาร์มหนึ่งเสร็จแล้วก็พาพวกตนไปทำงานอีกฟาร์มหนึ่งเหมือนนำไปขายแรงงานให้ชาวเกาหลีคนอื่น
ด้านนักศึกษาหญิง กล่าวว่าถูกส่งไปอยู่ฟาร์มสตรอว์เบอร์รีและถูกใช้งานตั้งแต่เช้าจนถึงตะวันตกดินดังกล่าวเช่นกัน ลักษณะเหมือนไม่ใช่การฝึกงาน เช่น ทำแปลพืชผัก นำผลผลิตใส่ถุง ฯลฯ การสื่อสารก็ไม่สามารถทำได้สะดวกเพราะทุกคนพูดภาษาเกาหลีไม่ได้และไม่มีระบบนำไปศึกษาภาษาก่อนจะพาไปฝึกงานจึงรู้สึกสับสนและกังวลใจตั้งแต่เดินทางไปถึงใหม่ๆ แล้ว นอกจากนี้ช่วงฝึกงานยังถูกชาวเกาหลีที่เป็นคนพาไปฝึกงานและพาเดินทางไปยังจุดต่างๆ ลวนลามทั้งกอด จูบ หรือพยายามเข้าไปหาตอนกลางคืนหรือเช้ามืดเป็นประจำ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่านักศึกษาทั้งหมดระบุว่าหลังจากไปฝึกงานได้ไม่วันจนถึงราวๆ 2 สัปดาห์ก็เริ่มทนไม่ไหวจึงได้แจ้งไปยังผู้บริหารวิทยาลัย อาจารย์ผู้เป็นที่ปรึกษาและผู้ประสานงานชาวเกาหลีใต้ให้ทราบเพื่อจะแก้ไขปัญหาหรือพาตัวส่งกลับประเทศไทย แต่ปรากฎว่าไม่ได้รับการแก้ไขโดยยังพบปัญหาเช่นเดิมโดยเฉพาะการถูกใช้แรงงานหนักมาก เมื่อทนไม่ไหวจึงพยายามสื่อสารพูดคุยกับชาวเกาหลีที่ฟาร์มก็ได้รับแจ้งทางวาจาว่าพวกเขาได้จ่ายค่าเดินทางของพวกตนไปหมดแล้วจึงต้องใช้งานดังกล่าว ทำให้พวกตนเสียใจเพราะคิดว่าได้ไปศึกษาฝึกงานภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไม่รับเงินค่าจ้างเท่านั้น
“เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือนและเหลือเวลาอีกเพียง 9 วันจะหมดระยะเวลาโดยเดิมมีกำหนดจะกลับประเทศไทยวันที่ 22 มิ.ย.ก็ทนไม่ไหว จึงพากันไปแจ้งตำรวจเกาหลีใต้ให้ช่วยเหลือซึ่งทางตำรวจได้พาตัวไปไว้ 2 จุดคือนักศึกษาชายไปอยู่ที่สถานทูตไทยส่วนผู้หญิงไปอยู่มูลนิธิที่ให้การช่วยเหลือผู้หญิงแห่งหนึ่ง กระทั่งทางสถานทูตไทยแจ้งว่าจะสำรองจ่ายค่าเดินทางกลับประเทศไทยให้คนละ 11,300 บาท แล้วจึงรีบกลับประเทศไทยเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ และรีบเดินทางกลับมายัง จ.เชียงราย เพื่อกลับภูมิลำเนาก่อนจะไปยังศูนย์ดำรงธรรมดังกล่าวเพื่อร้องทุกข์ดังกล่าว
ต่อมานายศักดิ์ชาย วงค์กนิษฐ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ยุติธรรมจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ฯลฯ ได้เข้ารับเรื่องของกลุ่มนักศึกษาและรับว่าจะประสานไปยังกรมอาชีวศึกษาเพื่อตรวจสอบโครงการดังกล่าวว่ามีลักษณะอย่างไร ส่วนศูนย์ดำรงธรรมจะประสานไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อให้ช่วยดูเรื่องผลกระทบต่อเยาวชนอีกทางหนึ่ง ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ จะช่วยเหลือด้านการเยียวยาทั้งด้านกฎหมายว่าลักษณะดังกล่าวจะเข้าข่ายการถูกละเมิดด้านกฎหมายใดหรือไม่และจะได้รับการช่วยเหลืออย่างไรต่อไป โดยเฉพาะค่าสำรองจ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทยและอื่นๆ
ด้านนายเจริญ เชื้อเมืองพาน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย กล่าวว่าวิทยาลัยต้องการให้นักศึกษาได้เรียนรู้ประสบการณ์ที่ประเทศเกาหลีใต้จึงได้ส่งนักศึกษาไปในช่วงฤดูร้อน โดยชุดนี้ถือเป็นชุดที่ 3 แล้วโดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าไปฝึกงานโดยไม่ได้ค่าตอบแทนแต่ทางองค์กรในประเทศเกาหลีจะจ่ายค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเดินทางและค่าเลี้ยงดูช่วงที่อยู่ในเกาหลีใต้ทั้งหมด 90 วัน สำหรับการให้ใช้ทำงานหนักนั้นก็ต้องอยู่ที่การตีความว่าหนักที่ว่าเป็นอย่างไร ส่วนกรณีระบุว่าถูกลวนลามตนก็ได้เชิญเจ้าของฟาร์มมาพูดคุยก็ได้ความว่าคนเกาหลีมีความเอ็นดูจึงเกาะไหล่ กอดโอบบ้าง แต่ข้อเท็จจริงนั้นตนไม่ทราบว่าการแสดงออกดังกล่าวทำให้เข้าใจผิดว่ามีการลวนลามหรือไม่
“ผมต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องเด็กถูกลวนลาม เด็กทำงานหนัก การจ่ายเงิน ผมมองว่าโครงเป็นโครงการที่ดีถ้าต้องล้มเลิกไปเด็กรุ่นหลังๆ จะเสียโอกาสนะผมว่านะ เพราะเราไป 2-3 เดือนไม่ต้องเสียสตางค์เลย เด็ก 1 คนไปค่าตั๋วเครื่องบินก็ 20,000 กว่า ค่ากินค่าอยู่เขาก็เลี้ยงดูเด็กเรา” นายเจริญ กล่าวและว่าเมื่ออยู่ในเกาหลีใต้ก็จะมีผู้ประสานงานของเราไปดูแลโดยเดินทางบินจากไทย-เกาหลีใต้ รวมทั้งทำงานอยู่ที่ จ.เชียงราย ทั้งนี้หากเด็กสามารถอยู่ได้ครบตามกำหนดจะมีทุนการศึกษาให้คนละ 20,000 บาท รุ่นที่ 1-2 ได้แต่เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ในรุ่นที่ 3 จึงน่าเสียดายมาก
ข้อมูลข่าวจาก ข่าวสด