รถทัวร์ กรุงเทพฯ-เขาค้อ แหกโค้งพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 20 พ.ย. ร.ต.อ.เอกกมล จันทบุรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านแยง จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถทัวร์เสียหลักพลิกคว่ำตกข้างทางช่วงโค้งลงเขา มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย บนถนนเส้นพิษณุโลก-หล่มสัก กม.ที่ 320-321 หมู่ 10 บ้านห้วยทรายเหนือ ต.ห้วยเฮี้ย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพมงคลธรรม ที่เกิดเหตุพบรถทัวร์โดยสารปรับอากาศของบริษัทพิษณุโลกยายนต์ กรุงเทพฯ-อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-เขาค้อ สีฟ้า-ขาว ทะเบียน 10-1230 พิษณุโลก พุ่งชนกับขอบปูนกั้นข้างทางลื่นไถลไปไกล
กว่า 100 เมตร ในสภาพล้อชี้ฟ้ากระจกหน้ารถแตกกระจายพังยับเยินทั้งคัน และมีไฟลุกไหม้ที่ห้องเครื่องยนต์ด้านหลังทำให้ผู้โดยสารต้องหนีตายออกนอกตัวรถอย่างจ้าละหวั่น เบื้องต้นพบมีผู้บาดเจ็บชายและหญิงทั้งหมด 9 ราย กู้ภัยเร่งลำเลียงคนเจ็บนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย แต่มีผู้โดยสาร 1 ราย ทนพิษบาดแผลไม่จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ น.ส.สุชาดา ศักดิ์เจริญชัยกุล อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 7 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ส่วนคนขับรถทัวร์คันดังกล่าว คือ นายแนน พันธุ์บุญ อายุ 50 ปี หลังเกิดเหตุได้อาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีหายไปกับความมืดอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายอรุณศักดิ์ กันแก้ว อายุ 31 ปี พนักงานดูแลรถ ให้การว่า รถทัวร์คันประสบเหตุได้รับผู้โดยสารมาจากสถานีขนส่งหมอชิต กทม. จำนวนกว่า 30 คน เมื่อช่วงเวลา 22.00 น. ของคืนวันที่ 19 พ.ย. และมาถึงที่สถานีขนส่งพิษณุโลกในเวลา 03.00 น. ของวันที่ 20 พ.ย. มีผู้โดยสารลงรถไปแล้วจำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออยู่อีกจำนวน 8 ราย จะไปลงที่ จ.เพชรบูรณ์ กระทั่งขับมาถึงยังจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งหักศอกลงเขา ตนได้เผลอหลับไปและสะดุ้งตื่นมาอีกทีเมื่อพบว่ารถไปชนกับขอบปูนกั้นข้างทาง ก่อนจะเสียหลักพลิกคว่ำหงายท้องตกลงไปไถลครูดกับพื้น มีเสียงผู้โดยสารกรีดร้องด้วยความตกใจกลัวและมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือเป็นระยะ ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการทางกระดูก ศีรษะแตก และมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย ก่อนจะพากันตะเกียกตะกายปีนออกนอกรถได้อย่างปลอดภัย จนมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว
ส่วน นายแนน คนขับ หลังเกิดเหตุตนได้พยายามโทรติดต่อแต่ไม่รับสายแต่อย่างใด ซึ่งจะแจ้งไปยังบริษัทให้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อเข้ามาดำเนินการกู้ซากรถพร้อมดูแลคนเจ็บ ส่วนสาเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานคาดว่าน่าจะเกิดจากคนขับไม่ชินเส้นทาง หรือขับรถมาด้วยความเร็วสูง หรืออาจวูบหลับใน ประกอบกับเป็นทางโค้งหักศอกลงเขาจึงทำให้ไม่สามารถควบคุมรถเอาไว้ได้จนเกิดอุบัติเหตุในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป