ร.ต.อ.สุพิศม์ฯ ได้ออกปฏิบัติหน้าที่กวดขันวินัยจราจร โดยมีการใช้เครื่องบังคับล้อแก่รถที่จอดซ้อนคันบริเวณหน้าตลาดใกล้โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ต่อมาหน่วยงานต้นสังกัดได้ออกมาชี้แจง
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2564 เวลาประมาณ 07.00 น. ร.ต.อ.สุพิศม์ ไสยเลิศ รอง สว.(จร.) สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้กวดขันวินัยจราจรเกี่ยวกับการจอดรถในเขตห้ามจอด,จอดรถกีดขวางการจราจรและการจอดรถซ้อนคัน บริเวณตลาดสดและบริเวณหน้าโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีข้อร้องเรียนจากภาคประชาชนอยู่บ่อยครั้ง โดยได้รับความเดือดร้อนจากการที่ผู้ขับขี่จอดรถในเขตห้ามจอด,จอดรถกีดขวางการจราจรและจอดรถซ้อนคันทำให้การจราจรติดขัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีมาตรการกวดขันวินัยจราจรด้วยวิธีการบังคับล้อ(ล๊อคล้อ)แก่ผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎจราจรและไม่ให้กระทำความผิดซ้ำอีก
ซึ่งขณะนั้น ร.ต.อ.สุพิศม์ฯ ได้ออกปฏิบัติหน้าที่กวดขันวินัยจราจร โดยมีการใช้เครื่องบังคับล้อแก่รถที่จอดซ้อนคันบริเวณหน้าตลาดใกล้โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ช่วงเวลาต่อมาได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองขอนแก่นว่า ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้ว จึงได้เดินทางไปปลดบังคับล้อให้ แต่เนื่องจากบริเวณจุดใกล้เคียง มีรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน กบ-๘๘๐๑ ขอนแก่น จอดซ้อนคันอยู่ลักษณะเป็นการกีดขวางการจราจรและเจ้าของรถคันที่ชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้ว ได้ชี้ให้บังคับล้อคันดังกล่าวด้วยเพราะเป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน ร.ต.อ.สุพิศม์ฯ จึงได้เข้าตรวจสอบ ไม่พบผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถ ซึ่งอาจจะลงไปซื้อของในตลาดและไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถได้ ตามขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้วิธีการประชาสัมพันธ์/แจ้งเตือนขอให้เลื่อนรถทุกครั้ง หากไม่มีผู้แสดงตนหรือเป็นเจ้าของรถ ก็จะได้ทำการบังคับล้อต่อไป หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการบังคับล้อเสร็จเรียบร้อย ได้มีผู้หญิงรายหนึ่งเดินเข้ามาต่อว่าและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปลดเครื่องบังคับล้อรถยนต์ของตนเอง ร.ต.อ.สุพิศม์ฯ จึงได้ออกใบสั่งแจ้งให้ไปเปรียบเทียบปรับตามระเบียบต่อไป เป็นเหตุให้หญิงคนดังกล่าวไม่พอใจจึงอัดคลิปไลฟ์สดกล่าวหาการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองขอนแก่น
ต่อมา (27 เม.ย.2564 เวลา 14.00 น.) พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น จึงได้เรียก สว.จร.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุพิศม์ฯ มาพบและสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าได้กระทำไปตามอำหน้าหน้าที่หรือไม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย โดยระหว่างที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ออกคำสั่งปรับเปลี่ยนหน้าที่ของ ร.ต.อ.สุพิศม์ฯ ให้ไปปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกจราจรด้านอื่นจนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ
ท้ายนี้ ผู้บังคับบัญชาของ สภ.เมืองขอนแก่น ได้มีการกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เริ่มตั้งแต่มีการประชาสัมพันธ์/ว่ากล่าวตักเตือนก่อนทุกครั้ง ให้ใช้ดุลยพินิจเป็นหลัก ทั้งหลักรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ ควบคู่กันไปและที่สำคัญต้องไม่เป็นการซ้ำเติมประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้กระทำผิดเองก็จะต้องไม่กระทำการใดๆ ที่กระทบต่อสิทธิของผู้อื่นหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง