สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯเปิดงาน อกท.ครั้งที่ 39 ทรงชื่นชมการจัดงาน อกท.เป็นประโยชน์อย่างมาก พัฒนาการศึกษาสาขาเกษตรกรรมของประเทศได้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ก.พ. ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม จ.มหาสารคาม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อกท.)ครั้งที่ 39 โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายประเวศ วรางกูร ประธานอำนวยการ อกท.ระดับชาติ นายรอยล จิตรดอน นายกสภาสถาบันอาชีวศึกษาเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้าราชการ บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา เกษตรกร และประชาชน เฝ้ารับเสด็จฯ
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กราบบังคมทูลรายงาน ว่า การจัดงานประชุมวิชาการระดับชาติในปีการศึกษา 2560 เพื่อนำผลงานของสมาชิกองค์การฯที่ประสบความสำเร็จมาจัดแสดงแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ผลการพัฒนาสมาชิกผู้นำ การจัดแสดงนิทรรศการวิชาการเกษตร การสัมมนาผลงานวิชา
การ การแสดงนันทนาการ และการแข่งขันทักษะวิชาชีพเกษตรมาร่วมกันจัดการประชุมระดับชาติ ซึ่งผู้ร่วมงาน นักเรียน นักศึกษา เกษตรกร และประชาชน ได้รับความรู้วิชาการเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางการเกษตรอย่างทั่วถึง
การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระ
ราชทานพระราชดำรัสเปิดการประชุม ความว่า การประชุมวิชาการครั้งนี้เป็นประโยชน์อย่างมากแก่นักศึกษา สาขาเกษตรกรรมคือเอื้ออำนวยให้นักศึกษามีโอกาสและพื้นที่ที่จะแสดงศักยภาพทางความคิดให้เป็นที่ประจักษ์ นักศึกษาจำนวนมากเป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดี และมีความสามารถสูง หากมีโอกาสมีผู้สนับสนุนและมีพื้นที่ให้ได้แสดงออกซึ่งคิด และความสามารถก็ย่อมส่งผลให้นักศึกษามีกำลังใจและเกิดความกระตือรือร้น ความขยันมันเพียรที่จะศึกษาหาความรู้ให้กว้างขวางและลึกยิ่งขึ้น
การประชุมวันนี้ยังเป็นโอกาสให้นักศึกษาต่างสถาบันได้พบปะสังสรรค์ ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ฉันท์มิตร ความเข้าใจที่ดีต่อกัน ทั้งได้ฝึกการทำงานร่วมกัน ฝึกการแก้ปัญหาหรือข้อขัดแย้งโดยใช้เหตุผล และการประนีประนอมทำให้นักศึกษาคิดเป็น ทำเป็น มีเหตุมีผลเป็นประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ชีวิต ในอนาคตนักศึกษาอาจไม่ได้เป็นเกษตรกรทุกคน หลายคนอาจประกอบอาชีพอื่นๆ แต่การที่เคยฝึกฝนมาจะช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้ได้เร็ว ทำงานเป็น หากได้เป็นผู้บริหารก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำให้หน่วยงานของตนพัฒนาก้าวหน้าได้ ขอแสดงความชื่นชมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนการจัดงาน ซึ่งมีส่วนส่วนช่วยพัฒนาการศึกษาสาขาเกษตรกรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า เป็นสาขาวิชาที่น่าสนใจ เรียนรู้และน่าภาคภูมิใจ
จากนั้น เสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการเมือง อกท. เมืองศิลปะเกษตร เมืองพืชศาสตร์ เมืองสัตวศาสตร์และประมง เมืองช่างเกษตร เมืองอุตสาหกรรมเกษตร และนิทรรศการผลงานโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารเทพาคาร ทรงฟังการสัมมนาผลงานทางวิชาการ และทอดพระเนตรผลงานนักศึกษา เรื่อง “ผลของสูตรอาหารเพาะเลี้ยงต่อการเจริญเติบโตของต้นม่วงเทพรัตน์ที่งอกงามเมล็ดเทียม” ของหน่วย อกท.พัทลุง (วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง) และเสด็จฯ ไปประทับรถไฟฟ้า ทอดพระเนตรการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร โดยการ สูบน้ำด้วยโซล่าเซลล์ลอยน้ำ และการให้น้ำพืชระบบน้ำหยด หลังจากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยัง “อาคารทูลกระหม่อมแก้ว” ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายอาคารทูลกระหม่อมแก้ว และทรงปลูก ”ต้นลีลาวดี”บริเวณหน้าอาคารด้วย
ทั้งนี้อาคารทูลกระหม่อมแก้ว เป็นอาคารสองชั้น กว้าง 20 เมตร ยาว 35 เมตร ภายในอาคารแบ่งเป็นสี่ห้อง ขนาดห้องละ 9 × 10 เมตร เป็นอาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นอาคารต้นแบบหลังแรกสำหรับองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่ ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม โดยอาคารทูลกระหม่อมแก้วจะเป็นอาคารสำหรับใช้ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในโครงการของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯชสยามบรมราชกุมารี ด้านต่างๆ เช่น สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการอาหารกลางวันเพื่อเด็ก กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและโครงการเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น
ขอบคุณภาพและเนื้อหาข่าวจาก: เดลินิวส์,กรุงเทพธุรกิจ