วันที่ 17 พ.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการบอกกล่าวจากชาวบ้านในพื้นที่ของ อ.ภูซาง จ.พะเยา ว่ามีคนรับประทานเนื้อหมูดิบแล้วเสียชีวิต 1 ราย นอกจากนี้ยังถูกหามส่ง รพ.เชียงคำอีก 3 ราย จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางมาถึงบ้านเลขที่ 150 บ้านปงใหม่ ม.8 ต.ทุ่งกล้วย อ.ภูซาง จ.พะเยา ซึ่งเป็นบ้านของผู้เสียชีวิตคือ นางสุทัช สุทจันทร์ อายุ 62 ปี ที่ได้เสียชีวิตจากการกินแหนมหมูดิบ ทั้งนี้ได้พบบุตรสาวของผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วิชญาดา สีสัน อายุ 36 ปีและญาติ ๆ ที่กำลังเตรียมเคลื่อนย้ายศพของผู้เสียชีวิตไปที่ป่าสุสานบ้านปงใหม่
โดยน.ส.วิชญาดา ได้เล่าว่า เมื่อประมาณวันอาทิตย์ที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา แม่ของตนเองได้เดินทางไปเที่ยวกับญาติ ๆ ภายในหมู่บ้านที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านั้นญาติที่มาด้วยกันก็ได้เดินทางไปซื้อของฝากที่จุดซื้อของฝากแยกเด่นชัย – อุตรดิตถ์ โดยได้ซื้อแหนมหมูและหมูยอมรับประทานกันทั้งนี้แม่ของตนเองได้รับประทานก่อนที่จะกลับบ้านมาแล้ว 1 ถุงด้วยกัน ต่อมาเมื่อกลับมาถึงบ้านในตอนเย็นญาติที่เดินทางไปด้วยกันได้แบ่งแหนมหมูมาให้อีก 1 ถุง เพื่อให้นาย สงัด สีสัน อายุ 77 ปี ได้รับประทานด้วย พอตกมาถึงวันที่ 13 ช่วงเย็น แม่ของตนกลับมีอาการแปลก ๆ คือมีการถ่ายอุจจาระแบบรุนแรงและนอนฟุบไปในห้องน้ำ ทั้งนี้ตนจึงได้ให้ญาติพานางสุทัช ส่ง รพ.เชียงคำอย่างเร่งด่วน โดยลักษณะอาการของนางสุทัชก่อนไปถึง รพ.เชียงคำนั้นมีอาการตัวบวมมาก และมีผื่นขึ้นตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายเป็นบริเวณกว้างแถมมีน้ำลายและเลือดออกจากปากด้วย นอกจากนี้พ่อของตนเองก็มีลีกษณะคล้ายๆกันโดยตนเองตกใจมากเพราะผู้เป็นแม่เพิ่งเข้า รพ.ไม่ถึง ชม. พ่อของตนเองก็เข้า รพ.ตามกันมา เมื่อมาถึง รพ.เชียงคำ แพทย์ได้ระบุว่า อาการดังกล่าวคล้าย ๆ โรคหูดับ หรือ โรคสเตรปโตคอคคัส โดยโรคดังกล่าวเกิดจากการรับประทานหมูดิบที่มีเชื้อโรคปะปนเปื้อนมาในเนื้อหมูดังกล่าว
หลังจากที่ นางสุทัชเข้าทำการรักษาตัวได้ประมาณ วันกว่า แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นสุดท้ายเพราะทางแพทย์ผู้รักษาได้บอกกับ น.ส.วิชญาดา ว่า นางสุทัช ได้ถูกเชื้อโรคดังกล่าวแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดและได้เสียชีวิตในที่สุด ทางด้านนายสงัด สีสัน ผู้เป็นบิดาของ น.ส.วชิญาดา ก็กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เชียงคำ จ.พะเยาเช่นกัน ทั้งนี้แพทย์ที่ทำการรักษานั้นได้ทำเร่งทำการรักษาอย่างเต็มที่เพื่อที่จะหยุดไม่ให้เชื้อโรคดังกล่าวคร่าชีวิตนายสงัดไปอีกราย นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยอีก 2 รายที่อยู่ในพื้นที่ อ.เชียงคำ เข้าทำการรักษาตัวเนื่องจากป่วยเป็นโรคหูดับเช่นกัน