เครือข่ายนิสิตฯออกแถลงการณ์หนุนนิสิตมมส. เปิดโปงการปลอมแปลงเอกสารทุจริตเงินผู้ยากไร้ ร้องผู้บริหารมหาลัยฯ สอบอาจารย์ภาควิชาและคณะฯที่ไม่ช่วยเหลือนักศึกษา
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีน.ส.ปณิดา ยศปัญญา นิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) อดีตนิสิตฝึกงานศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจ.ขอนแก่น ออกมาเปิดโปงการทุจริตเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ติดเชื้อเอดส์ และ อ.ที่ปรึกษา ได้ออกมาระบุว่า ไม่ได้บังคับให้นิสิตคนดังกล่าวและเพื่อนที่ฝึกงานพร้อมกัน กราบเท้าเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น
กลุ่มเครือข่ายนิสิตเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรม จึงออกแถลงการณ์ เพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจ แก่นิสิตที่ออกมาเปิดโปงการทุจริต โดยระบุว่า เนื่องจาก นางสาวปณิดา ยศปัญญา นิสิตสาขาวิชาการพัฒนาชุมชนชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มมส. ถูกบังคับให้ปลอมแปลงเอกสารเพื่อเบิกเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง เหตุเกิดระหว่างการฝึกงานในองค์กรดังกล่าวในภาคการศึกษา 1/2560 และนิสิตได้นำเรื่องมาปรึกษาอาจารย์ในสาขา แต่นิสิตคนดังกล่าวแทนที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองตามที่ควรจะเป็น ประธานหลักสูตรและอาจารย์ที่ปรึกษาฝึกงานกลับมีการนำไปไกลเกลี่ยกับผอ.ศูนย์ฯ ที่เป็นผู้กระทำผิด และยังกล่าวว่านิสิตกุเรื่องขึ้นมา และยังบังคับในนิสิตขอโทษซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับให้ยอมรับว่านิสิตเป็นผู้ผิด
ทั้งนี้เมื่อนำเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ท.) ทางคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มมส.ได้มีการส่งจดหมายลับเรียกนิสิตคนดังดกล่าวมาสอบสวนเมื่อวันที่ 8 ก.พ. และมีการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนซึ่งเป็นอาจารย์คนเดียวกันกับที่บังคับให้นิสิตยอมรับข้อกล่าวหา และสั่งให้หนึ่งในกรรมการค้นตัวนิสิต พร้อมให้ปิดมือถือ ขณะตนเองทำการบันทึกเสียง มีการตั้งคำถามที่กดดัน และกล่าวหาว่านิสิตว่าทำให้คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เดือดร้อน จึงทำให้นิสิตถูกคนในสาขาและสังคมมองไม่ดี นิสิตจึงออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชน ในวันที่ 9 ก.พ. นอกจากนี้อาจารย์ที่ปรึกษาการทำพัฒนานิพนธ์และประธานหลักสูตร ได้มีการเรียกประชุมนิสิตชั้นปีที่ 1-3 ของสาขาพัฒนาชุมชน และสั่งห้ามไม่ให้นิสิตแชร์ข่าว แต่กลับปล่อยให้นิสิตบางกลุ่มโพสต์แสดงความคิดเห็นในลักษณะหมิ่นประมาทและโจมตีนิสิตคนดังกล่าวอย่างไม่เป็นธรรม
ดังนั้นทางกลุ่มเครือข่ายนิสิตเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรม จึงมีข้อเรียกร้องต่อผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น 4 ข้อ 1.เหตุใดอาจารย์คนดังกล่าวจึงไม่ให้นิสิตดำเนินการลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นการป้องกันนิสิต ซึ่งจะเป็นผลดีต่อนิสิตในภายหลังหากว่ามีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แต่กลับนำนิสิตไปไกลเกลี่ย และมีการบังคับให้นิสิตขอขมาคู่กรณี 2.การเรียกนิสิตมาสอบสวนและกระบวนการสอบสวนโดยคณะ ใช้อำนาจถูกต้องหรือไม่ ให้ความเป็นธรรมกับนิสิตหรือไม่ และมีการละเมิดสิทธิหรือคุกคามนิสิตหรือไม่ 3.การสั่งห้ามไม่ให้นิสิตชั้นปีที่ 1-3 เผยแพร่และแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เลขานุการภาควิชาแชร์ข้อความในเชิงโจมตี เป็นการละเมิดสิทธิของนิสิตหรือไม่ และ4.ให้มีกลไกในการคุ้มครองสิทธินิสิตคนดังกล่าวทุกกรณี เนื่องจากกำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 อาจมีการใช้อำนาจหน้าที่ในการพิจารณาผลการเรียน อีกทั้งป้องกันไม่ให้มีการใช้อำนาจหน้าที่ละเมิดสิทธินิสิตคนดังกล่าวอีก
“กลุ่มเครือข่ายนิสิตเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรม จึงขอประกาศจุดยืนเพื่อไม่ให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์คณะ และมหาวิทยาลัยในด้านลบ และขอให้มีการตรวจสอบให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อน.ส.ปณิดา ยศปัญญา รวมทั้งเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคมในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม”