<h3>พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือ มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา พ.ศ. …. เพื่อให้มีการควบคุมและกำกับดูแลที่เข้มงวด รัดกุม อันเป็นการป้องกันการนำกัญชาไปใช้ในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย ภายหลังได้มีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2562 โดยกำหนดคำนิยาม คำว่า “กัญชา” “ผู้ได้รับอนุญาต” และ “หน่วยงานของรัฐ”</h3> <!--more--> <img class=" wp-image-11985 aligncenter" src="https://katipnews.com/wp-content/uploads/2019/05/IMG_20190528143909000000-728x484-400x266.jpg" alt="" width="608" height="404" /> <h3>กำหนดให้การขออนุญาตผลิต นำเข้า หรือ ส่งออก ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา มี 7 ประเภท ได้แก่</h3> <h3>1. เพื่อใช้ในทางการแพทย์ในประเทศ</h3> <h3>2.เพื่อการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ทางด้านการแพทย์ หรือ วิทยาศาสตร์ หรือ เภสัชกรรม</h3> <h3>3.เพื่อประโยชน์ทางราชการ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดและความร่วมมือระหว่างประเทศ</h3> <h3>4.เพื่อการผลิตเพื่อส่งออก และส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชา</h3> <h3>5.เพื่อการผลิตซึ่งกระทำโดยการปรุงยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชา สำหรับคนไข้เฉพาะราย ของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือ หมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย</h3> <h3>6.เพื่อรักษาโรคกรณีจำเป็นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย</h3> <h3>7.กรณีผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศนำยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชาติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรสำหรับใช้รักษาเฉพาะตัวภายใน 90 วัน</h3> <h3>กำหนดคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตผลิต นำเข้า หรือ ส่งออก ให้จำหน่าย หรือ มีไว้ในครอบครองกัญชา กำหนดให้ปลูกกัญชาในสถานที่ที่ระบุไว้เท่านั้น และในการปลูกทุกครั้งต้องใช้เมล็ดพันธุ์ เนื้อเยื้อ หรือ วิธีการอื่นตามที่ได้รับอนุญาตแล้วและจัดแนวเขตพื้นที่การเพาะปลูกที่เห็นได้ชัด</h3> <h3>กำหนดให้ผู้รับอนุญาตต้องจัดให้มีการสุ่มวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบหาปริมาณสาระสำคัญในกัญชา กำหนดให้ผู้รับอนุญาตผลิตหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์กัญชาจะผลิตหรือนำเข้าซึ่งตำรับยาเสพติด ฯ ที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ต้องขอการรับรองตำรับต่อผู้อนุญาตก่อน</h3> <h3>ที่มา ประชาชาติ</h3>