<h3>นักกฎหมายเตือน!! ใครทำบัตรประชาชนหายควรแจ้งความ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง ป้องกันตัวกรณีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้กระทำความผิด <!--more--> นายจักรกฤษณ์ โสมวิภาต ทนายอาสา สภาทนายความ กล่าวว่าถึงแม้ปัจจุบันเมื่อบัตรประชาชนหาย จะไม่จำเป็นต้องไปแจ้งความ ก่อนไปขอทำใหม่ แต่ขอเตือนว่าหากทำบัตรประชาชนหายจริง ควรไปแจ้งความไว้จะดีกว่า เนื่องจากการแจ้งความสามารถแจ้งเพื่อเป็นหลักฐาน และแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ดังนั้น เมื่อบัตรหายจึงจำเป็นต้องแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อความบริสุทธิ์ของตนเอง เนื่องจากอาจมีผู้ไม่หวังดีนำบัตรประชาชนของเราไปกระทำความผิดได้</h3> <h3>โดยผู้ที่ทำบัตรประชาชนสูญหาย หลังจากแจ้งความแล้วสามารถดำเนินตามขั้นตอนได้ ดังนี้ ผู้ประสงค์จะขอทำบัตรประชาชนสามารถยื่นคำร้องต่อนายทะเบียน ณ สำนักทะเบียนแห่งใดก็ได้ทั่วประเทศ เมื่อบัตรประจำตัวประชาชนเกิดสูญหาย ให้เจ้าของบัตรประชาชนไปดำเนินการแจ้งบัตรฯ หายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ ณ สำนักทะเบียนทั่วประเทศแห่งใดแห่งหนึ่ง เพื่อขอมีบัตรใหม่ภายใน 60 วัน ส่วนหลักฐานที่ใช้ประกอบเพื่อขอทำบัตรฯ คือ สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ถ้ามี), หลักฐานเอกสารที่ทางราชการออกให้และมีรูปถ่ายติด เช่น ใบอนุญาตขับรถยนต์ (ต้องไม่หมดอายุ) หนังสือเดินทางไปต่างประเทศ เป็นต้น ในกรณีของพระสงฆ์ใช้ใบสุทธิ (บัตรประจำตัวของพระ)</h3> <h3>หากไม่มีเอกสารหลักฐานไปแสดงหรือหลักฐานที่นำไปแสดงไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลได้ นายทะเบียนจะเรียกสอบสวนเจ้าบ้านหรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ เช่น ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไปให้คำรับรอง หากบัตรประจำตัวประชาชนหายมานานแล้ว ทางสำนักทะเบียนเขตหรืออำเภอ อาจจะขอบุคคลผู้น่าเชื่อถือมาให้การรับรองด้วย บุคคลผู้น่าเชื่อถือ หมายถึง บุคคลใด ๆ ซึ่งมีภูมิลำเนาที่อยู่แน่นอน มีอาชีพมั่นคงและมีความรู้จักคุ้นเคยกับผู้ขอมีบัตรเป็นอย่างดี อาจเกี่ยวข้องเป็นญาติกันหรือไม่ก็ได้</h3> <h3>Cr.Thai PBS</h3> <h3></h3>