กรณี นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ จ.ศรีสะเกษ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) มีหนังสือมอบหมายเจ้าหน้าที่คนหนึ่งให้มาแจ้งความดำเนินคดี กับนางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 บ้านบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ นางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี และนางทัศศอร โยแก้ว อายุ 36 ปี ข้อหาได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่บริเวณสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่เขต ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และลักลอบเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ นางทัศศอร ให้การว่า พวกตนทั้ง 3 คนพากันอาศัยรถของเพื่อนบ้านเพื่อออกตระเวนหาเก็บเห็ดขมยูคาลิปตัส ที่เกิดขึ้นอยู่เองตามธรรมชาติใต้โคนต้นยูคาลิปตัส เพื่อจะนำมาเป็นอาหารประทังชีวิตในครอบครัว เนื่องจากพวกตนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถไปทำงานหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว นั้น
เวลา 15.50 น. วันที่ 9 กรกฎาคม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากทราบเรื่องนี้ ได้โทรศัพท์ไปสอบถามที่เกิดเหตุแล้ว เบื้องต้นได้สั่งการให้หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ศรีษะเกษถอนแจ้งความกับประชาชนทั้ง 3 คนแล้ว เพราะเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตมากมาย อีกทั้งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สั่งการไปยังหน่วยงานกรมป่าไม้ทั่วประเทศแล้วว่า ให้พื้นที่ผ่อนปรนให้ประชาชนเข้าพื้นที่ไปหาเก็บของป่าเล็กๆน้อยๆสำหรับการดำรงชีวิต เช่น เก็บเห็ด หาหน่อไม้ได้ แต่ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายให้พื้นที่นั้นๆ
“ผมบอกกับทางหัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ไปแล้วว่าบางกรณีก็จะไปยึดกฏหมายแบบ 100% ไม่ได้ ต้องดูหลักคุณธรรมด้วย ซึ่งกรณีเก็บเห็ด ก็ไม่ได้ทำให้พื้นที่เสียหาย และตอนนี้ได้มีการถอนแจ้งความในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว”อธิบดีกรมป่าไม้กล่าว