กระทรวงสาธารณสุขพบสถานบันเทิงแพร่โควิด 19 อีกรอบ ในสัปดาห์นี้พบผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงหลายกรณี ทั้งคลัสเตอร์ทองหล่อ 13 ราย นครปฐม 6 ราย และปทุมธานี 12 ราย เตือนผู้ชอบเที่ยวผับบาร์ สถานบันเทิงเสี่ยงติดโควิดได้ง่าย ย้ำผู้ประกอบการและประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ วัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน และเช็คอินไทยชนะ ช่วยลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดช่วงสงกรานต์
วันนี้ (2 เมษายน 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 58 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล 42 ราย คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 3 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 13 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รักษาหายเพิ่มขึ้น 58 ราย ทำให้การติดเชื้อในระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 – 2 เมษายน 2564 มีผู้รักษาหายแล้ว 23,429 ราย คิดเป็นร้อยละ 94.82 อยู่ระหว่างรักษา 1,242 ราย เสียชีวิตสะสม 34 ราย
ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์โรคโควิด 19 ยังมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญจาก 5 เหตุการณ์ ได้แก่ 1.ตลาดย่านบางแค พบการระบาดเชื่อมโยงไปหลายจังหวัดจากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและการค้นหาเชิงรุกต่อเนื่อง 2.สถานบริการผับบาร์ ร้านอาหาร พบผู้ติดเชื้อที่มีไทม์ไลน์ไปรับประทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว ในย่านพระราม 9 และทองหล่อ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี และนครปฐม 3.โรงงานสถานประกอบการ ตลาด และชุมชน ใน จ.สมุทรสาคร ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องจากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและการค้นหาเชิงรุก 4.สถานที่กักตัว ASQ พบผู้เดินทางและบุคลากรติดเชื้อ จึงต้องเน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคตามมาตรฐานที่กำหนด และ 5.ห้องกัก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบการติดเชื้อทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ช่วยตักอาหาร และผู้ต้องกัก
นพ.จักรรัฐกล่าวว่า ขณะนี้สถานที่เสี่ยงที่พบผู้ติดเชื้อจากการเฝ้าระวังโรคโควิด 19 ได้แก่ สถานบริการ สถานบันเทิง ผับบาร์ และร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อหลายกรณีที่เชื่อมโยงกับสถานที่เหล่านี้ ได้แก่ กรณีนักศึกษาที่เชื่อมโยงสถานบันเทิง 3 แห่ง ในปทุมธานีและ กทม. โดยมีผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ 12 ราย เป็นนักศึกษา 9 ราย และมีการนำเชื้อไปติดคนในครอบครัว, กรณีเชื่อมโยงสถานบันเทิง จ.นครปฐม มีผู้ติดเชื้อ 6 ราย ได้แก่ นักร้อง 3 ราย นักศึกษา 1 ราย พนักงานบริษัท 1 ราย และติดคนในครอบครัว 1 ราย
ส่วนกรณีเชื่อมโยงสถานบันเทิงย่านทองหล่อ มีผู้ติดเชื้อ 13 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่หนึ่งมีผู้ติดเชื้อ 4 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายไทยอายุ 24 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ไปเที่ยวร่วมกับเพื่อน ซึ่งต่อมาตรวจพบเชื้อเช่นกัน ยังรอติดตามผลการตรวจเพื่อนอีก 3 คน ทีมสอบสวนโรคจึงไปตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน สถานที่เสี่ยง และผู้สัมผัส ทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย โดยจำนวนนี้ 1 ราย ให้ประวัติว่านอกจากไปเที่ยวย่านทองหล่อแล้วยังไปเที่ยวต่อย่านรัชดาและพระราม 9 ด้วย กลุ่มที่สอง มีผู้ติดเชื้อ 9 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายอายุ 37 ปี จากการสอบสวนพบลูกชายติดเชื้อ 1 ราย ผู้ที่พูดคุยใกล้ชิด 1 ราย คนที่ทำงาน 4 ราย โดยจำนวนนี้ 1 รายนำเชื้อไปติดแฟน และแฟนนำเชื้อไปติดเพื่อนที่อาศัยอยู่ด้วยกันอีกทอดหนึ่ง จึงเป็นการติดเชื้อต่อถึง 3 รุ่น
นพ.จักรรัฐกล่าวว่า สถานบันเทิงมีความเสี่ยงสูงในการแพร่ระบาดของโรค ปัจจัยเสี่ยง คือ การคลุกคลีใกล้ชิดกัน พนักงานไม่สวมหน้ากาก พูดคุยเสียงดังขณะรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกัน ทั้งนี้ ขอให้ผู้ประกอบการและประชาชนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรการ DMHTT คือ Distancing เว้นระยะห่างที่นั่ง ทั้งจุดรอคิว เวทีกับที่นั่ง ไม่ให้เกิดความแออัด Mask Wearingพนักงานและผู้ใช้บริการทุกคนต้องสวมหน้ากาก ยกเว้นช่วงรับประทานและดื่ม Hand washing จัดจุดบริการล้างมืออย่างเพียงพอ Testing วัดอุณหภูมิร่างกายก่อนใช้บริการ และ Thaichana ให้สแกนไทยชนะและใช้หมอชนะเพื่อติดตามผู้สัมผัสได้ทันหากพบผู้ป่วย นอกจากนี้ ขอให้ใช้ระบบจองคิวเพื่อลดความแออัด และงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้รับบริการที่มึนเมา เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและอุบัติเหตุ
“การระบาดระลอกใหม่นี้เคยพบผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงย่านบางพลัดและควบคุมได้แล้ว ไม่อยากให้มีการระบาดเกิดขึ้นอีก ขอความร่วมมือผู้ประกอบการช่วยกันเข้มการเว้นระยะห่าง ลดแออัด และสแกนไทยชนะจะช่วยตรวจจับการระบาดเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงแพร่เชื้อ และในช่วงสงกรานต์นี้มีการผ่อนคลายมาตรการ คนเดินทางจำนวนมาก ขอให้สวมหน้ากากตลอดเวลาที่เดินทาง เว้นระยะห่าง เลี่ยงสถานที่แออัด ก่อนเข้าใช้บริการมีการวัดอุณหภูมิ จึงอยากเน้นย้ำเพื่อไม่ให้ต้องกลับไปเพิ่มมาตรการควบคุมโรคอีก” นพ.จักรรัฐกล่าว