ครม.มีมติสั่งยกเลิก ใช้มาตรการกักขังแทนค่าปรับ เพื่อแก้ปัญหา “คุกมีไว้ขังคนจน” สอดคล้องกับหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน เตรียมชงเรื่องให้กฤษฏีกาแก้ไข
จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม ที่ผ่านมา เห็นสมควรให้พิจารณายกเลิกการกักขังแทนค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยถือเป็นเรื่องด่วน
กักขังแทนค่าปรับคืออะไร
กักขังแทนค่าปรับ เป็นมาตรการลงโทษที่ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน โดยการลงโทษปรับเป็นการบังคับเอาแก่ตัวทรัพย์สินของผู้ต้องโทษ แต่การกักขังเป็นการบังคับเอาแก่เสรีภาพของผู้ต้องโทษ จึงไม่อาจทดแทนกันได้ และหากมีการลงโทษปรับก็มีมาตรการรองรับ เพื่อบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ต้องโทษ รวมทั้งการทำงานบริการสังคมอยู่แล้ว
การกักขังแทนค่าปรับเป็นมาตรการหนึ่งในการบังคับคดีโทษปรับ ในกรณีที่ผู้ต้องโทษปรับ ไม่มีความสามารถทางเศรษฐกิจในการชำระค่าปรับจึงต้องถูกกักขังแทนจากจำนวนค่าปรับที่ต้องชำระ จนหมดสิ้นแต่ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมครม. เคยได้หารือถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกรณีมาตรการกักขังแทนค่าปรับ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน โดยได้มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 จำนวน 3 ฉบับ ประกอบด้วย
ร่างกฎกระทรวงการแสวงหาข้อเท็จจริง การรวบรวมพยานหลักฐาน และการชี้แจง หรือแก้ข้อกล่าวหา พ.ศ. ….
- ร่างกฎกระทรวงการชำระค่าปรับเป็นพินัยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ….
- ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยระเบียบปฏิบัติในการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ….
- สำหรับกฎหมายลำดับรองทั้ง 3 ฉบับจะสนับสนุนให้การบังคับใช้บทบัญญัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 มิถุนายน 2566 นี้เกิดผลได้จริง โดยเฉพาะการลบล้างวาทกรรม “คุกมีไว้ขังคนจน” และเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายในอนาคต.
ที่มาข่าวจาก : ฐานเศรษฐกิจ